สำหรับคนวงการดนตรีโดยเฉพาะมือกีตาร์ชื่อของ Joe Satriani คือปรมาจารย์ที่เป็นผู้ขัดเกลานักกีตาร์ชั้นนำของโลกมาแล้วนับไม่ถ้วน
แค่เอ่ยชื่ออย่าง Kirk Hammett แห่งสถาบันร็อก Metallica, Kevin Cadogan นักกีตาร์แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อกผู้โด่งดังในยุค 90 และอีกมากมายทั้งหมดนี้ล้วนผ่านมือของ Joe มาแล้วทั้งสิ้น แต่คนที่อยากพูดถึงมากที่สุดในฐานะของการเป็นอาจารย์กับลูกศิษย์ ขอยกให้กับศิษย์คนโปรดอย่าง Steve Vai มือกีตาร์ฉมังนาม
อย่างที่กล่าวไปว่าด้วยชื่อของ Joe Satriani คนในวงการกีตาร์ต่างยกย่องให้เขาคือเทพแห่งการเล่นและการสอน ด้วยแนวทางที่มีความชัดเจนคือถนัด trash metal สายปั่น สายร็อกในการเล่น แต่ทั้งนี้เจ้าตัวก็มีลีลาอันแสนแพรวพราวในการเลือกบรรเลงหลายสไตล์ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสอันเหมาะสม
ใครที่เคยเห็นลีลาการเล่นของ Joe จะรู้ทันทีว่าทำไมเขาจึงผ่านการยอมรับจากแฟนเพลงร็อกและคนในวงการด้วยกันให้ก้าวขึ้นเป็น “อาจารย์” แบบไม่มีข้อสงสัย กวาดรางวัลประดับบารมีมาแล้วนับไม่ถ้วน แต่อย่างที่บอกลูกศิษย์ที่ถูกกล่าวขานมากที่สุดต้องยกให้กับ Steve Vai หลายคนบอกว่าหากพูดถึงศิษย์เอกของ Joe Satriani ถ้าขาดชื่อของ Steve Vai ก็เหมือนขาดอะไรไปสักอย่างเหมือนกัน
เพราะ Steve Vai เป็นลูกศิษย์คนเเรกๆของ Joe ที่มาเรียนกีตาร์ตอน Steve อายุ 12 ปี จากการที่ Joe ถ่ายทอดวิชาให้ Steve Vai ทำให้ Joe ได้รับการพูดถึงการสอนเเบบถ่ายทอดฝีมือและจิตวิญญาณให้กับลูกศิษย์ได้อย่างดี
Steve Vai ถือเป็นมือกีตาร์ฮีโร่ที่ดีที่สุดของโลกคนนึง ที่ผ่านการสอนจากน้ำมือของ Joe Satriani ติดอันดับ Greatest Guitarist ในอันดับ 10 จากนิตยสาร Guitar World Magazine เเละรวมถึงได้เล่นภาพยนตร์เรื่อง Crossroads ด้วย ทั้งผลงานเดี่ยวและกลุ่มคือสิ่งที่ทำให้ Steve Vai ได้รับการยอมรับ
หากพูดถึงความเก่งของ Steve Vai คงไม่ต้องบรรยายกันให้มากความ เพราะทั้งการเป็นศิลปินเดี่ยว หรือเคยร่วมงานกับวงดนตรีและนักดนตรีระดับโลกมานับไม่ถ้วน อาทิ Ozzy Osbourne, David Lee Roth, Alcatrazz
แต่ความเป็นศิษย์กับอาจารย์ที่ทำให้ผู้คนจำได้ไม่เคยลืมคือ พวกเขา 2 คน ได้ตัดสินใจสร้างโปรเจกต์ G3 ซึ่งเป็นทัวร์ของนักดนตรีสายมือกีตาร์ฮีโร่ (เคยมาเมืองไทยด้วย) ได้แก่ Joe Satriani, Steve Vai, Eric Johnson, Yngwie J Malmstten เป็นต้น
ในช่วงเวลาที่เขากำลังวาดฝีไม้ลายมือได้อย่างไม่มีใครกล้าทัดเทียม กับยุคของกีตาร์ฮีโร่ที่ตอนนั้นกำลังถูกลืมให้กลับมาเฟื่องฟูได้อีกครั้ง คงบอกได้ชัดถึงความสามารถและคุณภาพที่เขาถูกสอนมาโดย Joe Satriani ว่าสุดยอดขนาดไหน นี่คือผลผลิตที่เห็นได้ชัดเจน และความผูกพันระหว่างศิษย์กับอาจารย์ก็ยังคงกอดคอรักใคร่กันอย่างไม่เปลี่ยนแปลง