อาจไม่เกินเลยไปหากจะบอกว่า โนล กัลลาเกอร์ (Noel Gallagher) แห่งวง Oasis อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของประเทศอังกฤษ ผู้ปลุกกระแสเพลงบริตร็อตให้ดังไปทุกทวีป
เขาคือศิลปินเเละ มือกีตาร์ที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโลกที่ยังมีชีวิตอยู่ในขณะนี้ ซึ่งเมื่อคุณรู้ประวัติของเขาแล้ว ก็จะยิ่งทึ่งในความสามารถของเขาที่ใกล้เคียงกับความอัจฉริยะมากๆ หากใครไม่เชื่อเรื่องพรสวรรค์ อาจต้องยกให้เขาคนนี้ไว้สักคน
โนล กัลลาเกอร์ เกิดเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ค.ศ. 1967 ในครอบครัวชาวไอริช เขาเป็นลูกคนกลางระหว่าง พอล แอนโธนี่ กัลลาเกอร์ พี่ชายคนโต และ เลียม กัลลาเกอร์ น้องชายตัวแสบคนเล็ก ครอบครัวของเขามีปัญหา แม่ต้องหาเลี้ยงลูกเพราะพ่อติดเหล้าและชอบทำร้ายพวกเขา โนล กัลลาเกอร์ กลายเป็นเด็กมีปัญหา ชอบใช้กำลัง หยุดเรียนกลางคัน ติดเหล้า ติดยา ชอบลักขโมย
แต่มีอย่างหนึ่งที่ โนล ทำได้ดีคือการเล่นกีตาร์ เขามีความสามารถถึงขนาดได้เดินสายทัวร์เป็นเด็กในวงพ่วงนักดนตรีแบ็คอัพให้กับหลายๆวงในแมนเชสเตอร์บ้านเกิดของเขา ทั้งๆที่ไม่เคยเรียนกีตาร์จากโรงเรียนหรืออาจารย์คนไหนเลย โนลหัดเล่นกีตาร์ด้วยตัวเองตั้งแต่วัยรุ่น และพัฒนาจนกลายมาเป็นนักดนตรีอาชีพได้อย่างสมบูรณ์
จุดเปลี่ยนในชีวิตของ โนล กัลลาเกอร์ เริ่มต้นขึ้นเมื่อ โนล กลับจากเล่นแบ็คอัพให้วง Inspiral Carpets เลียม น้องชายได้ออกปากชวนโนลมาร่วมวงกับเพื่อนมัธยมของเขาในฐานะมือกีตาร์
ชื่อเดิมของวงคือ Rain แต่เลียมจัดการเปลี่ยนเป็น Oasis ตาม Oasis Leisure Centre ในเมืองสวินดอนจากโปสเตอร์ของวง Inspiral Carpets ที่ติดอยู่ในห้องนอนเขา ใครจะไปรู้ว่าต่อมาพวกเขาจะโด่งดังกว่าวง Inspiral Carpets เสียอีก
ในเดือนตุลาคมปี 1991 โอเอซิส ขึ้นเวทีครั้งแรกแสดงโชว์ครั้งแรกที่บอร์ดวอล์คในเมืองแมนเชสเตอร์ สร้างความประทับใจให้คนดูพอสมควร
เเต่คํ่าคืนอันยิ่งใหญ่เกิดขึ้นในวันที่ 31 พฤษภาคม 1993 โนล รู้ข่าวว่า อลัน แม็คกี ที่ตอนนั้นเป็นประธานบริษัทแผ่นเสียง Creation Records จะไปดูคอนเสิร์ตที่คิงทุตส์ ไนท์คลับในเมืองกลาสโกว์ใน คืนนั้น โนลลงทุนเช่ารถพาสมาชิกวงโอเอซิสกับลูกทีม 17 คน เดินทางไปขอขึ้นเวทีโดยที่ไม่มีการจองคิวล่วงหน้ากับโปรโมเตอร์
โชคดีที่วันนั้นโปรโมเตอร์มีบอดี้การ์ดอยู่แค่ 2 คนจึงจำใจยอมให้พวกเขาขึ้นเวทีครึ่งชั่วโมง ซึ่งโอเอซิสก็ไม่ทำให้เจ้าของร้าน แขก และ อลัน ประทับใจมาก อลัน จึงเอ่ยปากชวนให้โอเอซิสมาเซ็นสัญญาด้วยทันที
หลังจากนั้นก็เหมือนช่วงเวลาแห่งความฝัน โอเอซิสทยานขึ้นสู่จุดสูงสุดของวงการดนตรีอย่างรวดเร็ว 11 เมษายน 1994 จนครองยุค 90 อย่างแท้จริง ซิงเกิ้ลแรกของพวกเขาอย่าง Supersonic โด่งดังเป็นพลุแตก ตามมาด้วยเพลงฮิตอย่าง Shakermaker กับ Live Forever
ส่วนอัลบั้มแรกอย่าง Definitely Maybe วางแผง 26 กรกฎาคม1994 เพียงหนึ่งเดือนก็ขึ้นสู่อันดับหนึ่งในตำแหน่งอัลบั้มที่ขายดีที่สุดบนเกาะอังกฤษ ซึ่งต่อมาพวกเขาก็สร้างเพลงฮิตอย่าง Wonderwall , Champagne Supernova , Cigarettes & alcohol , Morning Glory , Some Might Say และ Whatever ที่โนลใช้เวลาแต่งเพลงนี้เพียง 10 นาทีเท่านั้น เป็นต้น โดยเพลงทั้งหมดแต่งโดย โนล ขับร้องโดย เลียม
แต่มีเพลงเดียวที่ทำให้สองพี่น้องทะเลาะกันอยู่ยกใหญ่คือเพลง Don’t Look Back in Anger ซึ่งหลังจากแต่งเพลงนี้เสร็จในเวลาไม่นานด้วยกีตาร์ตัวเดียว โนล ก็ประกาศออกมาทันทีว่าเขาจะเป็นคนร้องเพลงนี้เอง ทำให้ เลียม ไม่พอใจอย่างมาก คิดว่าพี่ชายไม่เชื่อในความสามารถของเขา
แต่สุดท้าย โนล ก็คิดถูก Don’t Look Back in Anger ที่เขาร้องและเล่นเองกลายเป็นเพลงยอดนิยมของวง Oasis เทียบเท่า Wonderwall เป็นเพลงประจำเมือง และกลายเป็นหนึ่งในเพลงจากอังกฤษที่ดังที่สุดเพลงหนึ่งของโลก
สำหรับเรื่องส่วนตัว เลียม กับ โนล เป็นแฟนเพลงของ The Beatles วงร็อกอังกฤษจากเมืองลิเวอร์พูลด้วยกันทั้งคู่ เพลงโปรดของพวกเขาคือ Ticket To Ride (MV เพลง Supersonic ถ่ายบนดาดฟ้าเหมือนกับ MV เพลง Let It Be ของ The Beatles
และ อินโทรเพลง Don’t Look Back In Anger ได้แรงบันดาลใจมาจากเพลง Imagine ของ จอห์น เลนน่อน) และสิ่งที่สองพี่น้องเหมือนกันอีกอย่างคือพวกเขาเป็นแฟนทีมฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้เหมือนกัน
โนล แต่งงานครั้งแรกกับ เม็ก แมตธิวส์ ก่อนจะหย่าร้างกันไป ทั้งคู่มีลูกสาวสวยด้วยกัน 1 คนคือ แอนนิส แกลลาเกอร์ ก่อนจะแต่งงานครั้งที่สองกับนางแบบ ซาร่า แมคโดนัล ภรรยา มีลูกชายด้วยกัน 2 คน และสิ่งที่หลายคนยกให้เป้นเรื่องพรสวรรค์ก็คือ โนล กัลลาเกอร์ ถนัดมือซ้าย แต่เล่นกีตาร์ด้วยมือขวา
ปี 2009 วงโอเอซิสที่มีความระหองระแหงระหว่าง โนล กับ เลียม มาหลายปี ก็ยุติลงด้วยการถอนตัวของ โนล หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการเปลี่ยนสมาชิกไปหลายต่อหลายคน โนล หันมาเป็นศิลปินเดี่ยว
High Flying Birds ถือว่าไปได้สวยทีเดียว ผิดกับ เลียม น้องชายที่พาสมาชิกเก่าตั้งวง Beady Eye แต่ไปไม่รอด จนล่าสุดในปี 2017 เลียมพร้อมหวนสู่วงการเพลงอีกครั้งในฐานะศิลปินเดี่ยว พร้อมกับเดินหน้าตื้อพี่ชายอย่าง โนล ให้กลับมารียูเนี่ยนวง Oasis อีกครั้ง แฟนๆคงต้องลุ้นกันต่อไปว่าอีกหนึ่งวงดนตรีในตำนานของโลกจะได้กลับมารวมตัวกันหรือไม่
///////////////////
หากใครชอบบทความเเบบนี้ share ให้เพื่อนๆเราเห็น เเละเพื่อเป็นกำลังใจให้เราด้วยครับ